ในประเทศญี่ปุ่นมีตำนานและเรื่องเล่ามากมายที่สืบทอดต่อกันมาแต่โบราณ ไม่ต่างจากประเทศไทยที่มีเรื่องเล่าและความเชื่อที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งในรูปแบบเล่าปากต่อปาก และแบบลายลักษณ์อักษร
ในสมัยก่อนคนญี่ปุ่นโดยทั่วไปเชื่อกันว่าถ้าไม่ทำตามข้อห้ามที่เล่าสืบต่อกันมา จะทำให้พบเจอกับโชคร้ายที่บางครั้งอาจหนักถึงขั้นเสียชีวิต ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 7 สิ่งห้ามทำในความเชื่อญี่ปุ่น พร้อมกับเหตุผลของแต่ละข้อห้ามกันครับ
สารบัญข้อห้ามในความเชื่อญี่ปุ่น
ห้ามตัดเล็บตอนกลางคืน

「 夜爪 yozume 」 ย่อมาจากคำว่า 夜に爪を切ること ( yoru ni tsume o kiru koto ) ที่แปลว่า การตัดเล็บตอนกลางคืน เป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับคำว่า 「 世詰め yozume 」 ที่หมายถึง การทำให้อายุขัยสั้นลง
มีคำพูดที่ว่า ‘หากคุณตัดเล็บตอนกลางคืน คุณจะไม่ได้อยู่เห็นพ่อแม่จากไป’ หมายความว่าถ้าเราตัดเล็บตอนกลางคืน เราจะตายก่อนเวลาอันควรนั่นเอง
เหตุผลที่มีข้อห้ามนี้ในอดีต เพราะว่าในช่วงเวลานั้นอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก ดังนั้นการตัดเล็บในที่มืดโดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มืดที่สุดจึงถือว่าอันตรายมาก เพราะเราอาจตัดเข้าเนื้อได้ และในยุคสมัยนั้นบาดแผลเล็ก ๆ ก็อาจติดเชื้อจนถึงชีวิตได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก
ห้ามผิวปากตอนกลางคืน

การห้ามผิวปากในตอนกลางคืนตามความเชื่อญี่ปุ่นมีหลายเหตุผลแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค แต่ที่พบได้บ่อยคือความเชื่อที่ว่าการผิวปากในตอนกลางคืนจะดึงดูดวิญญาณร้ายและปีศาจมา กับ ความเชื่อว่าหากผิวปากในตอนกลางคืนงูจะมาหา
ซึ่งทั้งสองเหตุผลนี้อาจดูแตกต่างกัน ด้านหนึ่งอ้างถึงปีศาจ ส่วนอีกด้านอ้างถึงงู แต่จริง ๆ แล้วมันมีความหมายเดียวกันครับ นั่นคือหากผิวปากตอนกลางคืนจะมีเรื่องร้าย ๆ เข้ามา
ว่ากันว่าในอดีตเมื่อมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น ผู้คนมักจะผิวปากหรือเป่านกหวีด นั่นทำให้บางครั้งเพื่อนบ้านก็จะเกิดความอิจฉาได้ ซึ่งในนิทานและตำนานหลาย ๆ เรื่องจะใช้งูเป็นสัญลักษณ์แห่งความอิจฉา
และการที่มีข้อห้ามผิวปากในตอนกลางคืนก็เพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านหรือคนแถวบ้านคิดว่ามีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นในบ้าน เป็นการป้องกันไม่ให้มีคนคิดร้ายหรือโจรแอบเข้ามาในบ้านนั่นเองครับ
ห้ามตากผ้าตอนกลางคืน

ญี่ปุ่นในอดีต ชุดกิโมโนจะถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และยังมีประเพณีการตากชุดกิโมโนของผู้ตายในเวลากลางคืน ตามความเชื่อที่ว่าวิญญาณของผู้ตายจะสิงอยู่ในชุดกิโมโน
ดังนั้นการตากผ้าตอนกลางคืนจึงเหมือนกับการตากผ้าของคนตาย และเสื้อผ้าเหล่านั้นจะถูกวิญญาณคนตายเข้าสิง
ในทางฮวงจุ้ยเชื่อกันว่าพลังหยินจะรุนแรงมากในเวลากลางคืน ทำให้ผู้คนในสมัยก่อนเชื่อกันว่าพลังหยินจะติดอยู่กับเสื้อผ้าที่ถูกตากในตอนกลางคืน และถ้ามีคนสวมเสื้อผ้าตัวนั้น คนคนนั้นจะโชคร้าย
ห้ามดื่มชาตอนดึก

ในญี่ปุ่นชาเขียวคือเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน แต่ในสมัยก่อนคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าการดื่มชาตอนดึกแทนที่จะส่งผลดีต่อร่างกาย ชาจะกลายเป็นพิษแทน ว่ากันว่าความเชื่อนี้ส่งต่อกันมาจากการที่มีคนหลายคนป่วยจากการดื่มชาเขียวในตอนดึก
สาเหตุเกิดจากการที่ทุกครั้งที่ชงชา สารคาเทชินซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียจะออกมาจากใบชา และใบชาที่มีโปรตีนก็จะเริ่มเน่า เมื่อทิ้งชาไว้นานสารคาเทชินก็จะกลายเป็นสารแทนนินที่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้
และในสมัยก่อนยังไม่มีแนวคิดอย่างการนำชาไปแช่เย็น ชาจึงบูดง่ายมาก จนอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ถ้าหากดื่มชาที่ทิ้งไว้นาน
ห้ามเก็บดอกฮิกันบานะกลับบ้าน

ดอกฮิกันบานะ ( 彼岸花 higanbana ) หรือ ดอกพลับพลึงแมงมุม เป็นดอกไม้ที่สวยงามแต่ก็เป็นดอกไม้ที่ดูเป็นลางไม่ดีเช่นกัน เนื่องจากดอกฮิกันบานะมักจะบานบนหลุมศพ จึงเชื่อกันว่าการเก็บดอกฮิกันบานะกลับบ้านจะทำให้พบกับโชคร้าย
แต่สาเหตุจริง ๆ ที่เกิดข้อห้ามนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าดอกฮิกันบานะนั้นมีพิษ และเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ เด็ดดอกไม้นี้กลับบ้านจึงเกิดความเชื่ออย่าง ถ้าเก็บดอกฮิกันบานะกลับไปบ้านจะเกิดไฟไหม้ หรือถ้าเก็บดอกฮิกันบานะกลับไปจะพบแต่ความโชคร้ายนั่นเองครับ
ห้ามนอนทันทีหลังกินข้าว

มีคำพูดว่า ‘ถ้านอนทันทีหลังกินข้าวจะกลายเป็นวัว’ เป็นหนึ่งในความเชื่อของญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็นวัวเพราะว่าวัวมีนิสัยนอนทันทีหลังกินเสร็จ
ประโยคนี้กลายเป็นที่นิยมสำหรับการเตือนไม่ให้นอนทันทีหลังทานอาหาร เพราะนอกจากจะทำให้ดูเหมือนวัวและเป็นมารยาทที่ไม่ดีแล้ว การนอนทันทีหลังทานอาหารยังส่งผลเสียต่อระบบการย่อยอาหารและกลไกการดูดซึม รวมถึงอาจมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดอาหารอักเสบด้วย
ห้ามปักตะเกียบบนชามข้าว

การปักตะเกียบบนชามข้าวมีความเชื่อว่าจะเป็นการทำให้เกิดโชคร้าย เพราะการปักตะเกียบบนชามข้าวจะทำให้ข้าวชามนั้นดูเหมือน มะคุระเมชิ ( 枕飯 makurameshi) ที่เป็นของไหว้ในงานศพ
มะคุระเมชิคือของไหว้ที่จะตั้งไว้หน้าโลงศพ โดยที่เห็นได้ทั่วไปจะประกอบด้วย ข้าวที่ใส่ในชามข้าวของผู้ตายที่เคยใช้ในตอนที่ยังมีชีวิตเป็นกองพูนสูงแล้วปักตะเกียบในแนวตั้ง 1 คู่ พร้อมน้ำ ชา และดังโงะ
ดังนั้นการปักตะเกียบบนชามข้าวที่จะทานก็เหมือนเป็นการแช่งตัวเอง และเรียกโชคร้ายมาหาตัวเอง อีกทั้งยังเป็นมารยาทที่ไม่ดี ผู้ปกครองจึงมักใช้ความเชื่อนี้ในการสอนลูกเกี่ยวกับมารยาทในการรับประทานอาหารครับ
ในญี่ปุ่นยังมีความเชื่อและข้อห้ามอื่น ๆ อีกมากมายเลยครับ คนญี่ปุ่นเองก็มีคนที่ชื่นชอบเรื่องราวลึกลับ ไสยศาสตร์ และเรื่องสยองขวัญไม่ต่างจากคนไทย หากสนใจอ่านเรื่องสยองขวัญของญี่ปุ่น ผมขอแนะนำ 3 เรื่องผีญี่ปุ่นจากเรื่องเล่า ตำนานเมือง และอินเทอร์เน็ตครับ
หากต้องการติดตามข่าวสารญี่ปุ่น คอนเทนต์สนุก ๆ หรือโปรโมชั่นคอร์สเรียนต่าง ๆ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางด้านล่างครับ
สนใจการเรียนภาษาออนไลน์ สามารถดูคอร์สเรียนโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. ได้ที่ www.tpaeduways.com