โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)

10 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับราเมง

  บะหมี่ญี่ปุ่น หรือ ราเมง ( ラーメン – raamen ) หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นที่คนส่วนใหญ่ต้องรู้จักหรือเคยลิ้มลอง เป็นหนึ่งในอาหารที่ญี่ปุ่นได้รับมาจากต่างประเทศและทำการปรับให้เข้ากับรสนิยมของคนในประเทศตัวเอง จนกลายเป็นเอกลักษณ์อันน่าจดจำ 

  นอกจากนี้ราเมงยังเป็นอาหารที่มีประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า และความน่าสนใจมากมายเลยครับ เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราขอนำเสนอ 10 เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับราเมง

ร้านราเมงญี่ปุ่น

1. ต้นกำเนิดของราเมง

  ราเมง มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ก่อนจะถูกนำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นโดยชาวจีนอพยพช่วงยุคเมจิ ( ค.ศ. 1869 – 1912) แต่เพราะรสชาติไม่ค่อยถูกปากคนญี่ปุ่นมากนัก ภายหลังจึงถูกนำมาปรุงใหม่ด้วยเครื่องปรุงของญี่ปุ่นอย่างโยุ (ซีอิ๊ว) และ มิโซะ (เต้าเจี้ยว) จนกลายมาเป็นราเมงที่เรารู้จักกันดี 

2. ที่มาของชื่อราเมง

  มาจากคำว่า ลาเมี่ยน (  Lāmiàn ) ในภาษาจีน ที่มีความหมายถึง การนำแป้งสาลีมานวดแล้วยืดเป็นเส้น 

ลาเมียน ต้นตำรับของราเมงจากประเทศจีน

3. ร้านราเมงแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่เชฟไม่ญี่ปุ่นสักนิด

  ร้านราเมงแห่งแรกในญี่ปุ่นเปิดที่อาซากุสะ จังหวังโตเกียว ในปี ค.ศ. 1910 โดยมีเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น แต่พ่อครัวทั้ง 12 คนเป็นคนจีนที่ถูกจ้างมาจากไชนาทาวน์เมืองโยโกฮามะ โดยตั้งชื่อร้านว่า ไรไรเคน ( 来々軒 – rairaiken )

4. ราเมงมีหลากหลายประเภท

  รสชาติของราเมแตกต่างกันไปตามจุดเด่นของแต่ละภูมิภาค แต่ประเภทน้ำซุปที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชื่นชอบ รวมถึงเป็นน้ำซุปที่คนไทยที่ชอบทานราเมงรู้จักมีทั้งหมด 4 ประเภทหลักครับ แต่ในครั้งนี้เราจะยกตัวอย่างมาทั้งหมด 6 ประเภท 

  4.1 โชยุราเมง ( 醤油ラーメンshouyu raamen ) น้ำซุปโชยุเป็นหนึ่งในซุปของราเมงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นครับ และนี่คือน้ำซุปที่ร้านไรไรเคนเริ่มทำเมื่อปี ค.ศ. 1910 เรียกได้ว่าเป็นน้ำซุปที่เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว 

โชยุราเมง

  4.2 มิโซะราเมง ( 味噌ラーメン – miso raamen ) น้ำซุปที่เชฟชาวญี่ปุ่นจากเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ได้พัฒนาขึ้นมาในปี ค.ศ. 1955 จนโด่งดังไปทั่วประเทศ  

  ถึงแม้ถ้าวัดตามระยะเวลาที่น้ำซุปนี้ถูกพัฒนาขึ้นมา มิโซะราเมงอาจเป็นรุ่นหลานของโชยุราเมง แต่ความนิยมเรียกได้ว่าตีคู่กันมาเลยครับ เป็นน้ำซุปสองประเภทที่คนนิยมกันมากที่สุด

มิโซะราเมง

  4.3 ชิโอะราเมง ( 塩ラーメン – shio raamen ) น้ำซุปประเภทนี้จะเริ่มมีความเฉพาะทางขึ้นมาหน่อย เพราะเป็นน้ำซุปที่ปรุงรสด้วยเกลือ โดยบางร้านก็เลือกที่จะปรุงให้มีรสเกลือเบา ๆ นุ่ม ๆ แต่บางร้านก็เลือกที่จะไปสุดทางเค็มสุดใจเลยครับ  

  แต่ต้องบอกว่าชิโอะราเมงเป็นราเมงที่มีประวัติยาวนานที่สุด เนื่องจากเป็นรสชาติต้นตำรับที่ได้รับมาจากวัฒนธรรมจีนเลย ถิ่นกำเนิดของซุปนี้ในญี่ปุ่นอยู่ที่เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโดครับ 

ชิโอะราเมง

  4.4 ทงคตสึราเมง ( 豚骨ラーメン – tonkotsu raamen ) ราเมงยอดนิยมของลูกผู้ชาย นี่คือราเมงซุปกระดูกหมูที่ได้รับอันดับ 1 ในประเภทราเมงที่ผู้ชายชื่นชอบที่สุดจากผลสำรวจของ Line Research ที่ได้ทำแบบสอบถามกับผู้ชายชาวญี่ปุ่นทั้งสิ้น 2,561 คน ในปีค.ศ. 2023

  ทงคตสึราเมงมีต้นกำเนิดจากเกาะคิวชู เป็นหนึ่งในน้ำซุปราเมงที่โด่งดังไปทั่วโลก ผมคิดว่าสำหรับคนที่ชอบอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น อาจถูกปากทงคตสึราเมงมากกว่าโชยุราเมง และมิโซะราเมงเสียอีกครับ แต่ถ้าเป็นบ้านเรายังไงก็ต้องเป็นราเมงต้มยำกุ้งแล้วล่ะเนอะ 

ทงคตสึราเมง

  4.5 เกียวไค เค ราเมง ( 魚介系ラーメンgyokai kei raamen ) 魚介gyokai แปลว่า อาหารทะเล และนี่คือราเมงซีฟูด ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของท้องทะเล มีทั้งแบบซุปใสและข้นให้เลือกทาน คนไทยอาจไม่เคยได้ยินชื่อราเมงประเภทนี้เลยก็ได้ แต่ราเมงประเภทนี้จะมีขายทั่วไปในร้านราเมงที่อยู่ใกล้กับทะเลครับ 

ซีฟู้ดราเมง

  4.6 ทซึเคเมง ( つけtsukemen ) ราเมงจุ่มน้ำซุปมีต้นกำเนิดจากโตเกียว เป็นราเมงที่แยกเส้นกับน้ำซุปมาให้ ตัวน้ำซุปจะมีความเข้มข้นกว่าราเมงปกติ เพื่อให้น้ำซุปติดอยู่กับเส้นหลังจากที่เอาเส้นขึ้นมาจากน้ำซุปก่อนทาน เป็นราเมงที่คนรู้จักแต่เลือกกินน้อยกว่าราเมง 4 ประเภทหลักอย่าง โชยุ มิ ชิ และ ทงคตสึรับ 

ทสึเคเมง ราเมงจุ่มน้ำซุป

5. มารยาทในการทานราเมงคือต้องเร็ว

  มารยาทที่ดีในการทานราเมงคือต้องทานให้เร็ว แต่ไม่ได้หมายถึงการเทกรอกปาก ทานหมดเกลี้ยงภายในเวลาที่จำกัดนะครับ การทานให้เร็วในที่นี้คือเมื่อเชฟเสิร์ฟราเมงแล้วให้เริ่มทานได้เลย เพราะราเมงจะอร่อยที่สุดคือตอนร้อน ๆ และหากทิ้งไว้นานเส้นจะนิ่มจนเกินไปครับ 

  นอกจากนี้ร้านราเมงไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เรานั่งเล่นและทานราเมงนาน ๆ อันที่จริงร้านราเมงส่วนใหญ่เป็นเหมือนร้านที่คุณเข้ามานั่งทานแล้วออกไปทันทีหลังทานเสร็จ นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ร้านราเมงทั่วไปมีราคาที่ไม่แพงครับ

6. ยิ่งซดเสียงดัง เชฟยิ่งมีกำลังใจ

  การซดน้ำซุปหรือสูดเส้นราเมงเสียงดังไม่ใช่เรื่องผิด อันที่จริงมันคือมารยาทที่ดีที่เชฟอยากเจอทุกวัน เพราะมันเป็นการบอกกับเชฟว่าราเมงชามนี้มันอร่อยมากครับ 

  นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังซดราเมงเสียงดังจากเหตุผลอื่นด้วย นั่นคือการคลายความร้อนของเส้นราเมงในระหว่างการสูดเส้นจนเกิดเสียง และในขณะเดียวกันเราก็จะได้รับกลิ่นหอมของราเมงได้ดียิ่งขึ้นด้วยครับ 

  แต่สำหรับคนไทยเราถูกสอนมาให้ทานเงียบ ๆ ดังนั้นการจะไปสูดเส้นเสียงดังตามแบบฉบับเจ้าของวัฒนธรรมอาจจะยากไปเสียหน่อย หากรู้ว่าทำไม่ถนัดก็อย่าฝืนทำเลยครับ เพราะการสำลักจนเส้นออกจมูกไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเสียเท่าไหร่ จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง 

7. คนญี่ปุ่นบอกว่า “เวลาเมาแล้วรู้สึกอยากทานราเมง” เรื่องนี้มีวิทยาศาสตร์มาอธิบาย!

  เรื่องนี้ไม่ใช่ความเชื่อหรือการคิดไปเองแต่อย่างใด แต่มันเกิดจากน้ำซุปของราเมงครับ เพราะว่าตัวน้ำซุปนั้นมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดรสอูมามิอยู่มากมาย เช่น ซุปกระดูกหมูที่มีกรดอิโนซินิก ( イノシン酸 – inoshinisan ) ที่มีผลในการช่วยสลายแอลกอฮอล์ครับ 

  ดังนั้นเมื่อเราดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ตัวแอลกอฮอล์ก็จะเข้าสู่กระแสเลือดของเราทำให้ร่างกายต้องการกรดอิโนซินิกเพื่อนำมาต่อต้านแอลกอฮอล์โดยที่เราไม่รู้ตัวครับ  

  ดังนั้นเวลาเดินผ่านร้านราเมงหลังจากดื่มเสร็จ จะทำให้เกิดความรู้สึกอยากทานราเมงขึ้นมา อีกทั้งหากทานหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ รสชาติของราเมงก็จะอร่อยขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ต่อให้คน ๆ นั้นจะไม่ได้ชอบราเมงเป็นพิเศษก็ตาม

ทานราเมงตอนเมา ทำให้อร่อยยิ่งขึ้น

8. อาหารประเภทบะหมี่ชนิดแรกที่ทานได้ในอวกาศก็คือ ราเมง!

  โมโมฟุคุ อันโด คือผู้คิดค้นราเมงกึ่งสำเร็จรูปที่สามารถทานในอวกาศได้ในปี ค.ศ. 2005 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในอีก 2 ปีต่อมา โดยตั้งชื่อราเมงประเภทนี้ว่า Space Ram ( スペース・ラム – supeesu ramu ) 

  และผู้ที่ได้ทานราเมงพร้อมชมวิวในอวกาศเป็นคนแรกก็คือนักบินอวกาศชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า โซอิจิ โนกูจิ ที่นำเอา Space Ram ขึ้นสู่อวกาศไปพร้อมกับเขานั่นเองครับ เดี๋ยวนี้ที่ไหนก็สามารถอิ่มอร่อยกับราเมงได้แล้วจริง ๆ 

9. ราเมงคืออาหารยอดฮิต ไม่เว้นแม้แต่ในเรือนจำ

  เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าราเมงเป็นอาหารญี่ปุ่นที่คนนิยมกันมาก รวมถึงราเมงสำเร็จรูปด้วย และความนิยมนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่ในญี่ปุ่น เพราะที่เรือนจำริเกอร์ส ไอแลนด์ ( Rikers Island Prison ) ในนิวยอร์กเอง ราเมงสำเร็จรูปก็เป็นที่นิยมอย่างมาก 

  เรือนจำริเกอร์ส ไอแลนด์ ต้องจัดหาราเมงสำเร็จมาเก็บสต็อกไว้เสมอ ซึ่งเจ้าราเมงสำเร็จรูปที่ขายในราคา 35 เซ็นต์ ( ประมาณ 12 บาท ) นี้ถือเป็นอาหารที่ขายดีที่สุดภายในเรือนจำเลยครับ และบางครั้งนักโทษก็ไม่ได้ซื้อราเมงมาต้มทาน แต่เอาเครื่องปรุงของราเมงไปเพิ่มรสชาติให้กับอาหารจืด ๆ ในโรงอาหารของเรือนจำครับ 

ราเมงในเรือนจำ

10. อยากลดน้ำหนัก อย่าได้ซ่ากับราเมง

  600 – 1,000 ตัวเลขนี้ไม่ใช่ราคาของราเมนในค่าเงินญี่ปุ่นแต่หมายถึงปริมาณแคลอรีต่อหนึ่งชามที่ราเมงให้เรา ใช่ครับ ราเมงหนึ่งชามให้แคลอรีประมาณครึ่งหนึ่งของที่ร่างกายมนุษย์ต้องการต่อวันภายในหนึ่งมื้อ 

  หากผู้ชายวัยทำงานต้องการแคลอรี 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ส่วนผู้หญิงวัยทำงานต้องการ 1,600 กิโลแคลอรีต่อวัน เท่ากับว่าเมื่อเราทานราเมงหนึ่งมื้อ ก็เหมือนกับการทานข้าวมันไก่ 1 จาน + เค้ก 1 ชิ้นพร้อม ๆ กันเลยนั่นเอง 

อยากลดน้ำหนัก อย่าซ่ากับราเมง

แต่ถ้าหากอยากกินราเมงจริง ๆ แต่ก็อยากลดน้ำหนักด้วย ต้องทำยังไงดีล่ะ?

  ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องมาดูปริมาณแคลอรีของราเมงแต่ละชนิดกันก่อน ใช่แล้วครับ ราเมงแต่ละชนิดมีแคลอรีต่างกันมากทีเดียว ตัวอย่างเช่น

โชยุราเมง

  ราเมงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชามนี้มีแคลอรีอยู่ที่ประมาณ 700 กิโลแคลอรีครับ แต่ปริมาณแคลอรีนี้สามารถขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ตามสูตรของร้าน ถึงแม้ซุปโชยุจะไม่เข้มข้นหรือมีไขมันมากนัก แต่เส้นราเมง ไข่ หมู และเครื่องเคียงต่าง ๆ ทำให้ราเมงประเภทนี้มีแคลอรีที่สูงครับ 

มิโซะราเมง

  อีกหนึ่งราเมงยอดฮิตชามนี้เองก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าโชยุราเมง โดยมีแคลอรีอยู่ที่ 800 กิโลแคลอรี ถึงแม้แคลอรีส่วนใหญ่จะมาจากเส้นราเมงและเครื่องเคียงแต่ตัวน้ำซุปที่มีความเข้มข้นนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มิโซะราเมงมีแคลอรีที่สูงครับ 

ทงคตสึราเมง

  ราเมงซุปกระดูกหมูที่มีรสชาติเข้มข้นกับกลิ่นหอมรัญจวนใจ แต่ก็ต้องแลกมากับแคลอรีที่สูงที่สุดใน 4 น้ำซุปราเมงที่คนนิยมที่สุด ทงคตสึราเมงจะมีแคลอรีอยู่ที่ 900 กิโลแคลอรีต่อชาม แต่บางครั้งในหลาย ๆ ร้านก็มากถึง 1,000 กิโลแคลอรีเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากเส้นราเมงและปริมาณไขมันในน้ำซุปนี่เอง 

ชิโอะราเมง

  ชิโอะราเมง หรือราเมงที่แต่งรสชาติของน้ำซุปด้วยเกลือ เป็นราเมงที่สาว ๆ เลือกที่จะทานเวลาอยากทานราเมงแบบไม่ค่อยรู้สึกผิด โดยมีแคลอรีอยู่ที่ประมาณ 700 กิโลแคลอรี่ ส่วนใหญ่แคลอรีมาจากเส้นและเครื่องเคียง ส่วนน้ำซุปมีแคลอรีที่น้อยเพราะปรุงรสด้วยเกลือเป็นหลักครับ จึงเป็นราเมงทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากทานราเมงแบบแคลอรีต่ำ แค่สั่งแบบเส้นน้อยก็ลดแคลอรีไปได้เยอะแล้วครับ

  หลังจากเห็นแคลอรีของราเมงแต่ละชามแล้ว ก็ทำให้รู้ได้เลยนะครับว่าราเมงนี่เป็นอาหารหาทานง่าย เน้นอิ่ม ที่ไม่ควรทานบ่อย เพราะแคลอรีและไขมันสูงสุด ๆ

  ซึ่งสาว ๆ ญี่ปุ่นที่คุมน้ำหนักก็จะใช้วิธีไม่ซดน้ำซุปจนหมด สั่งเส้นน้อย และกินเครื่องเคียงไม่มากเพื่อลดปริมาณแคลอรีที่จะได้รับในหนึ่งมื้อลงครับ สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนักแต่ก็อยากลองราเมง ก็เลือกราเมงที่แคลอรีน้อยอย่างชิโอะราเมงหรือโชยุราเมง และสั่งเส้นกับเครื่องเคียงน้อยได้นะครับ 

  สนใจการเรียนภาษาออนไลน์ สามารถดูคอร์สเรียนโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. ได้ที่ www.tpaeduways.com

Picture of jirapong.s
jirapong.s
มนุษย์ออฟฟิศที่สนใจการตลาด ชอบการเขียนบทความ มีใจให้กับการคิดคอนเทนต์ อินกับการดูแลเว็บไซต์ อยากพัฒนาความรู้เรื่อง SEO

แชร์บทความนี้

บทความอื่นๆ เพิ่มเติม

เราใช้คุกกี้ในการพัฒนาเว็บไซต์ให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์ต่อ เราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ของเรา อ่านรายละเอียด

PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น กรณีที่ท่านอายุต่ำกว่า 20 ปีโปรดกรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติมที่นี่

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอม เราจะไม่สามารถนำเสนอสิทธิพิเศษ โปรโมชั่น และโฆษณาได้ตรงกับความสนใจของคุณ

  • ความยินยอมเพื่อส่งข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับบริการต่าง ๆ

    ความยินยอมให้สมาคมประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประชาสัมพันธ์ ส่งข่าวโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ หรือแจ้งข่าวสารหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการของฝ่ายโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมหรือหน่วยงานอื่นของสมาคม รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าให้กับฝ่ายหรือหน่วยงานอื่นของสมาคมเพื่อการประชาสัมพันธ์หรือแจ้งข่าวสารดังกล่าว หากไม่ยินยอม สมาคมอาจไม่สามารถส่งข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ของฝ่ายโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมหรือหน่วยงานอื่นของสมาคมแก่ท่านได้

  • ความยินยอมเพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์การใช้บริการเว็บไซต์

    เพื่อประเมินความพึงพอใจของท่านต่อการใช้บริการเว็บไซต์ TPA Eduways หากไม่ยินยอม สมาคมจะไม่สามารถนำความคิดเห็นของท่านไประมวลผลเพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์การใช้บริการเว็บไซต์ TPA Eduways ได้

  • ความยินยอมเพื่อนำไปสู่การนำเสนอบริการต่าง ๆ

    เพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรวจความต้องการใช้บริการต่าง ๆ ของสมาคม (customer needs) และเพื่อจัดทำฐานลูกค้าการตลาด รวมทั้งการวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่การนำเสนอบริการต่าง ๆ ที่สมาคมเห็นว่าเหมาะสมกับท่าน หากไม่ยินยอม สมาคมจะไม่สามารถนำข้อมูลของท่านไปประมวลผลเพื่อนำไปสู่การนำเสนอบริการต่าง ๆ ที่สมาคมเห็นว่าเหมาะสมกับท่านได้

Save